เกี่ยวกับ Battery

เกี่ยวกับ Apple Notebook Battery (Lithium-ion)
จากหน้าเวปของ Apple เองบอกเอาไว้ว่า battery แบบ lithium-ion ของ Apple เองนั้นมีคุณสมบัติทั่วไปเหมือนกับ battery แบบ lithium-ion ที่พบเห็นอยู่ในอุปกรณ์อื่น ๆ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว จะมีวันหมดอายุครับ (เสื่อมสภาพจนไม่เก็บไฟแล้ว ทำให้เราต้องซื้อใหม่)

ทั่วไปเกี่ยวกับ Lithium-ion
โดยทั่วไป battery แบบ Lithium-ion นั้นจะเก็บประจุได้มากกว่า battery แบบ nickel ที่เราเคยใช้อยู่ในอุปกรณ์อิเล็คโทรนนิกรุ่นเก่า ที่ต้องคอยชาร์จให้เต็มและใช้ให้หมดเป็นรอบ ๆ ไป ซึ่งนอกจาก Lithium-ion จะเก็บประจุได้มากกว่าและน้ำหนักเบากว่าแล้ว ยังสะดวกกว่าในการชาร์จด้วย เพราะเราสามารถชาร์จไฟเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่เราสะดวก ไม่ต้องชาร์จเป็นรอบ ๆ เหมือนแต่ก่อน

การชาร์จไฟโดยทั่วไปบน Battery แบบ Lithium-ion
ส่วนมากแล้ว Battery แบบ Lithium-ion จะใช้การ  "Fast charge"  ที่ทำให้ชาร์จไฟเต็มที่ไปจนถึง 80% ของความจุ battery ก่อนแล้วค่อย ๆ เติมประจุจนเต็ม 100% ทีหลังอย่างช้า ๆ คือประมาณว่า เราจะเสียเวลาชาร์จ iPod จนมีความจุ battery ที่ 80% โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชม. และจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 ชม.หลังจากนั้นเพื่อชาร็จ battery จนเต็มความจุที่ 100% ถ้าเราไม่ได้ใช้ iPod ไปด้วยระหว่างที่ชาร์จ จะทำให้สามารถชาร์จได้เต็มความจุเร็วขึ้นโดยใช้เวลาที่สั้นลง

Charge Cycle
การนับรอบของการชาร์จบน lithium-ion battery นั้น จะนับความจุที่เราชาร์จไปแต่ละครั้ง แล้วนำมาบวกกันให้ครบ 100% จะนับเป็นการชาร์จ 1 cycle หรือ 1 รอบครับ เช่น

เราชาร์จแบตของ iPod เรามาเต็ม แล้วใช้หมดไปครึ่งหนึ่ง (50%) แล้วกลับมาชาร์ใหม่ให้เต็มใหม่ก่อนนอน  - - แบบนี้นับเป็นครึ่งรอบ .. ถ้าวันต่อมาเราทำซ้ำแบบเดิมอีก ถึงจะนับเป็นการชาร์จเต็ม 1 รอบครับ (50% +50% =100% นับเป็น 1 รอบชาร์จ)

การชาร์จดครบ 1 รอบคือ การชาร์ไฟครบ 100% ของความจุ ไม่ว่าจะชาร์จแบบ 0-100% ในครั้งเดียว หรือทะยอยชาร์จครั้งละนิดละหน่อย ก็จะถูกนับมารวมกันให้ได้ 100% แล้วตัดเป็น 1 รอบการชาร์จครับ

batt-cycle-1_0.jpg

ตัวเลขใน System Profiler ของ Battery Health ที่บอกจำนวนเป็น Cycle นั้นอธิบายตรงนี้ครับ

batt-profile_0.jpg

อายุ Battery
ตามธรรมชาติแล้ว ทั้ง battery ของ notebook, iPod, iPhone จะสามารถเก็บความจุได้ลดลง ตามจำนวนรอบการชาร์จที่มากขึ้น โดยข้อมูลจากในเวป Apple แล้ว Battery จะยังสามารถเก็บความจุได้ที่ 80% หลังจากผ่านการชาร์จไปสักระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งแตกต่างกันตามประเภทของ battery ดังนี้ครับ

ที่มา

http://www.apple.com/batteries/
เกี่ยวกับ โน๊ตบุค battery ของ Apple
http://www.apple.com/batteries/notebooks.html
เกี่ยวกับ battery ของ iPod, iPhone
http://www.apple.com/batteries/ipods.html

[แก้ไขเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2551 : ขยายความเกี่ยวกับเรื่องรอบการชาร์จ cycle count ครับ]

การ Calibrate Battery

การ Calibrate Battery
ภายในตัวของ Battery ที่เราใช้อยู่ จะมี micro processor ที่จะคอยบอกกับเครื่องให้แสดงผลบนหน้าจอเราว่า ตอนนี้ Battery เหลืออยู่หรือว่าใช้ไปแล้วเท่าไหร่ .. การ Calibrate Battery คือคล้าย ๆ กับการ reset ตัว micro processor ตัวนี้ ให้ประมวลผลค่าต่าง ๆ ของ battery ได้ถูกต้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ Notebook ควรจะทำอย่างสม่ำเสมอครับ

วิธี Calibrate Battery สำหรับผู้ใช้ MacBook, MacBook Pro (10.5)

1.เสียบปลั๊กเข้ากับไฟบ้าน และชาร์จจนเต็ม

2.หลังจากสถานะของ Battery เต็มแล้วให้เสียบปลั๊กค้างเอาไว้ต่อไปสัก 1- 2 ชม. (จะทำงานต่อไปบนเครื่องก็ได้)

3.ให้ถอดปลั๊กที่ต่อตรงกับไฟบ้านออก (ไม่ต้องปิดเครื่อง ดึงปลั๊กออกมาได้เลย) ให้เครื่องเริ่มทำงานโดยใช้ไฟจาก Battery จนไฟที่ชาร์จเอาไว้เกือบจะหมด.. จะมีหน้าต่างเตือนเราขึ้นมาว่าไฟใน Battery เหลือน้อยแล้ว

4.ให้เปิดเครื่องต่อไปและให้ใช้งานต่อไปจนกว่าเครื่องจะดับ หรือว่า Sleep ไปเอง (ถ้าเรายังทำงานอะไรค้างอยู่ให้ save และปิด app ที่ใช้อยู่ให้หมด ก่อนที่เครื่องจะดับครับ ..)

5.ปิดเครื่อง หรือปล่อยให้เครื่อง Sleep ต่อไปสัก 5 ชม. หรือกว่านั้น

6.เสียบปลั๊กต่อไฟเข้ากับเครื่อง แล้วปล่อยให้ชาร์จไฟทิ้งไว้จนกว่าจะ Battery จะเต็มอีกครั้ง (สามารถใช้เครื่องทำงานไปได้ในระหว่างนี้)

note :

  • ควรจะทำการ Calibrate ตามขึ้นตอนด้านบนนี้อย่างน้อยทุก 2 เดือนหรือเร็วกว่านั้น เพื่อให้ Battery ทำงานได้อย่างถูกต้อง และสำหรับผู้ที่ใช้เครื่องไม่ค่อยบ่อย ให้ Calibrate Battery อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
  • ถ้าใครซื้อ Battery สำรองมาใช้ด้วย .. ให้ทำการ Calibrate Battery สำรองนั้นด้วย

ที่มา

สำหรับผู้ใช้ 10.5
http://docs.info.apple.com/article.html?path=Mac/10.5/en/9036.html
สำหรับผู้ใช้ 10.4
http://docs.info.apple.com/article.html?path=Mac/10.4/en/mh2339.html
เกี่ยวกับการ Calibrate (ข้อมูลเพิ่มเติม และสำหรับเครื่องรุ่นเก่า)
http://support.apple.com/kb/HT1490

การดูแลรักษา Battery ของ Notebook

การดูแลรักษา Battery ของ Apple Notebooks

1.เก็บรักษาไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม (ใกล้เคียง 22 องศา C ได้จะดีมาก)

2.ให้แน่ใจว่า ชาร์จให้เต็มในการต่อไฟบ้านครั้งแรก และทำการ update software ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด เพราะ apple จะออกตัว update ที่ปรับปรุงการทำงานของ battery ให้ดีขึ้นเป็นระยะ ๆ

3.การดูแลรักษาทั่วไป battery แบบ Lithium-ion จำเป็นที่จะต้องมีการหมุนเวียนของประจุ ** พูดให้ง่ายก็คือ เราควรที่จะใช้งานผ่าน battery บ้าง เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของประจุภายในเซลของ battery ครับ

note : Apple แนะนำว่า ควรจะมีการชาร์จ และใช้ประจุบน battery นี้ให้เกิดขึ้นอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง

4.ถ้าเราจะไม่ได้ใช้เครื่องเป็นเวลานาน ให้ถอด battery ออกมาเก็บไว้ ซึ่ง battery ที่เราถอดเก็บเอาไว้ ถ้าใน battery มีไฟอยู่ เมื่อเวลาผ่านไป เค้าจะค่อย ๆ คายประจุหรือสูญเสียความสามารถในการเก็บประจุไปบ้างเล็กน้อย เมื่อนำกลับมาใช้ใหม่ครับ

note : ต้องมีไฟเก็บอยู่ใน battery บ้าง หรืออย่างน้อย 50% เพราะถ้าเราเก็บ battery ก้อนเปล่าที่ไม่มีไฟไว้นาน ๆ อาจจะทำให้ battery สูญเสียการเก็บประจุไปเลยเป็นการถาวร

การใช้งานบน battery อย่างเต็มประสิทธิภาพ

  • ปรับการตั้งค่าต่าง ๆ จากใน Energy Saver (ดูการ เกี่ยวกับ Sleep ประกอบ)
  • ปรับความสว่างของหน้าจอ ให้สว่างน้อยลงแต่ยังอ่านได้ไม่ปวดตา
  • ปิด AirPort หรือ Bluetooth ที่ไม่ได้ใช้ (ถึงจะเปิดเอาไว้เฉย ๆ แต่ไม่ได้ทำอะไร ก็จะเปลือง battery ครับ)
  • ปิด Application ที่ไม่ได้ใช้ให้หมด
  • เอาแผ่น CD/DVD ออกจากใน Optical Drive ภายในเครื่อง
  • ถอดสาย USB จากอุปกรณ์เชื่อมต่อที่ไมได้ใช้ออก

อายุของ battery ของ Apple จากในเวปบอกเอาไว้ว่า Notebook Battery จะยังเก็บไฟได้ 80% โดยประมาณ หลังจากผ่านการชาร์จเต็มมาแล้ว 300 รอบ

การดูแลรักษา Battery ของ iPod,iPhone

การดูแลรักษา Battery ของ iPod,iPhone

1.เก็บรักษาไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม (ใกล้เคียง 22 องศา C ได้จะดีมาก - เหมือนกับ batt ของ notebook)

2.ให้แน่ใจ update software ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด เพราะ apple จะออกตัว update ที่ปรับปรุงการทำงานของ battery ให้ดีขึ้นเป็นระยะ ๆ

3.การดูแลรักษาทั่วไป battery แบบ Lithium-ion จำเป็นที่จะต้องมีการหมุนเวียนของประจุ ** พูดให้ง่ายก็คือ เราควรที่จะใช้งานผ่าน battery บ้าง เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของประจุภายในเซลของ battery

note : Apple แนะนำว่า ควรจะมีการชาร์จ และใช้ประจุบน battery นี้ให้เกิดขึ้นอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง

การใช้งานบน battery อย่างเต็มประสิทธิภาพ

  • ปุ่ม Hold / Pause : เลือก Pause เพื่อกันไม่ให้กดปุ่มแล้วให้ iPod ทำงานโดยไม่ตั้งใจ
  • ปรับความระยะเวลาของความสว่างหน้าจอ (Backlight) ให้ปิดเองเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก จะช่วยประหยัด Battery ได้
  • ใช้ Equalizer ให้น้อยลง : เพราะการใช้งาน EQ จะไปทำให้ Processor ทำงานหนักขึ้น และกินไฟมากขึ้น ให้ปิด EQ ไปเมื่อไม่ได้ใช้ แต่ถ้า เราตั้ง EQ มาจากใน iTunes เลยให้เราปรับ EQ ไปที่ flat เพื่อที่จะหยุดการทำงานของ EQ ที่เราตั้งไว้จากใน iTunes

เกี่ยวกับ Momory บน iPod

ใน iPod ที่เป็น Hard disk นั้น จะเล่นเพลงจาก solid-state cache ภายในเครื่อง เพื่อการเล่นเพลงที่ต่อเนื่อง ไม่สะดุด โดยที่ Hard disk จะคอยหมุนอยู่เพื่อคอยเติมเพลงลงใน cache นี้ (ทุกครั้งที่ HD หมุน จะเป็นการใช้พลังงานเกิดขึ้นตรงนี้) และจากปัจจัยที่ทำให้ Hard disk หมุนนี้ ถ้าเราทราบ เราสามารถลดการทำงานตรงนี้ได้ = เป็นการยืดอายุ battery ไปได้ในขณะเดียวกัน

  • Fast Forward : การข้ามเพลงบ่อย ๆ  ทำให้ HD ต้องคอยหมุนบ่อยขึ้นเพื่อหาเพลงมาเติมใน cache ให้เรา เท่ากับเป็นการใช้ battery มากขึ้น วิธีการหลีกเลี่ยงตรงนี้คือ ให้สร้าง playlist ที่เราต้องการเอาไว้ หรือใช้คำสั่ง shuffle แทนการกด fast forward
  • Use Compressed Songs : cache จะทำงานได้ดีที่สุดกับไฟล์ที่มีขนาดเฉลี่ยประมาณไม่เกิน 9 MB ครับ ถ้ามีไฟล์ที่เป็นพวกต้นฉบับ AIFF หรือว่า WAV นี่ เราควรที่จะ Compress เค้านะครับ เพื่อให้ iPod ทำงานดีขึ้น (สามารถเลือกแปลงไฟล์ได้ตอนที่ Import เข้า iTunes) ถ้าเรา encode ไฟล์ที่ 128Kbps iPod จะทำงานเพื่อหาเพลงมาเติมใน cache ทุก ๆ ประมาณ 25 นาทีครับ =)

อายุของ battery ของ Apple จากในเวปบอกเอาไว้ว่า Battery ของ iPod/iPhone จะยังเก็บไฟได้ 80% โดยประมาณ หลังจากผ่านการชาร์จเต็มมาแล้ว 400 รอบ

note : สำหรับการชาร์จ iPod บางรุ่น จะทำให้เกิดความร้อนสะสมถ้ามี case อยู่ ทางที่ดี คือถ้าเราพบว่าเครื่องร้อนผิดปรกติตอนชาร์จ ให้ถอด case ออกก่อนชาร์จครับ

iPod : วิธีการใช้ Battery ให้คุ้มค่า

การใช้งาน battery บน iPod แบบคุ้มค่าครับ

http://support.apple.com/kb/HT1726?viewlocale=en_US

คร่าว ๆประมาณนี้
  • ปรับปุ่ม hold ค้างเอาไว้ กันการกดโดยไม่ตั้งใจ
  • เก็บรักษา iPod ในอูณหภูมิปรกติ และไม่ชาร์จขณะใส่เคสอยู่ (จะระบายความร้อนได้ช้าลง)
  • ชาร์จ iPod อย่างสม่ำเสมอแม้จะไม่ได้ใช้งานเป็นประจำ (ทุก ๆ 14-28 วัน)
  • เมื่อไม่ได้ใช้งาน ให้กด Pause เอาไว้
  • ปิดไฟ backlight กับ equalizer ทิ้ง
  • หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนเพลง
  • ฟังเพลงที่ถูกบีบอัดมาแล้ว (เพลงใหญ่ ๆ จะทำให้ cache บน ipod ไม่พอเลยจะทำให้ hd หมุนหรือว่าทำงานอยู่เรื่อย ๆ ครับ ซึ่งตรงนี้จะกิน batt) 

 

เราควรถอด Battery ระหว่างใช้งาน Notebook หรือไม่?

เห็นในเวปบอร์ดของ Mac user ในเมืองไทยมีผู้ใช้หลาย ๆ ท่านตั้งคำถามเกี่ยวกับว่า เราควรที่จะถอด Battery แล้วใช้ไฟตรงในการทำงานกับเครื่อง Notebook เราเพียงอย่างเดียวหรือไม่? .. ส่วนใหญ่เหตุผลหลัก ๆ เลยคือต้องการที่จะยืดอายุของ Battery ให้นานที่สุด..

คำตอบของเรื่องนี้คือ .. เราไม่ควรและไม่มีความจำเป็นที่จะถอด Battery ออกระหว่างใช้งาน Notebook ของเราครับ เพราะ..

1.เรื่องความปลอดภัย - การมี Battery อยู่กับเครื่อง สามารถป้องกันปัญหาที่เกิดจากกระแสไฟตรงไม่สมำ่เสมอ จำพวก ไฟกระชาก, ไฟตก, ไฟเกินไม่ให้ทำความเสียหายกับ Notebook ของเราได้ เพราะเครื่องคอมฯ เป็นอุปกรณ์ที่ค่อนข้างจะละเอียดอ่อนกับตรงนี้ค่อนข้างมาก และจากประสบการณ์ตรงของผมเอง เครื่อง Mac mini ผมพังเพราะไฟกระชากมาแล้วครับ...

2.ประสิทธิภาพการทำงาน - จากหน้าเวป support ของ apple ได้อธิบายตรงนี้ไว้ว่า การนำ Battery ออกนัั้น เครื่องที่ทำงานด้วยกระแสไฟตรงเพียงอย่างเดียว CPU จะทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพครับ (ไม่ 100%) และแนะนำว่า เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำด้วยในภาวะการใช้งานปรกติ

3.เกี่ยวกับธรรมชาติการทำงานของ Battery เอง - เรื่องนี้อาจจะขัดกับความเข้าใจของคนส่วนใหญ่นะครับ แต่ที่จริงแล้ว cell ต่าง ๆ ใน Battery ต้องมีการใช้งานบ้างครับ ถึงจะรักษาสภาพ cell ให้ปรกติได้อยู่.. ถ้าเราไม่ใช้งาน Battery นาน ๆ เค้าอาจจะทำงานผิดปรกติ หรืออย่างแย่ที่สุดคือ cell ตายได้(ไม่เก็บไฟแล้ว) ดังนั้น เพื่อการทำงานของ Battery ที่ควรจะเป็น ก็ให้เราใช้เครื่องโดยที่ยังมี Battery ติดอยู่ในเครื่องของเราตามปรกติล่ะครับ และเปลี่ยนเมื่อ Battery ตามอายุขัยของเค้าจะดีที่สุด (เมื่อหมดอายุ หรือเก็บไฟได้น้อยเกินกว่าที่เราจะรับได้)